ฮิปสเตอร์บ้านไร่(1) : Slim Harpo
วันนี้ตั้งใจจะเขียนเรื่องศิลปินบลูส์นอกกระแสครับ ซึ่งเป็นผลมาจากบทสนทนากับพี่ๆช่วงสองสามวันที่ผ่านมาถึงความคล้ายคลึงของเพลงบลูส์บางลักษณะกับเพลงลูกทุ่งของเราในช่วงยุค 60’s – 70’s พูดแล้วผมก็จะนึกถึงพวกบลูส์กระแสรองโดยอัตโนมัติ อันนี้จริงจะว่าไปศิลปินเหล่านี้ในสมัยนั้นเขาก็ประสบความสำเร็จกันพอสมควรนะครับ บางคนในช่วงเวลาเดียวกันยอดขายดีกว่าก็อดฟาเธอร์ของวงการบลูส์อย่างมัดดี้ วอเตอร์สด้วยซ้ำ มาถึงตรงนี้อาจจะเป็นโอกาสดีที่จะได้แจกแจงนิดนึงครับว่าการยึดเอาบลูส์ในแบบของมัดดี้หรือที่เรียกกันว่าชิคาโก้บลูส์เป็นสแตนดาร์ดของบลูส์เลยนั้น จริงๆแล้วทำไม่ได้เพราะชื่อก็บอกอยู่ครับว่ามันเป็นบลูส์ของเมืองชิคาโก้ ในอเมริกานั้นมี 50 รัฐและแต่ละรัฐนั้นก็มีหลายเมืองท่านผู้อ่านลองคิดดูสิครับว่าวัฒนธรรมพื้นถิ่นจะต่างกันได้ขนาดไหน บลูส์ในฟอร์แมตที่เราคุ้นกันว่าเป็น 12 bar blues, มีนักร้องนำกึ่งร้องกึ่งตะโกน และเสียงกีตาร์แตกๆนั้น เป็นรูปแบบที่เริ่มต้นที่ชิคาโก้และได้รับการพัฒนาต่อยอดมากที่สุดด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง แต่ในเวลาเดียวกันห่างออกไปเป็นพันๆไมล์ไม่ว่าจะเป็นทางใต้ ทางตะวันออก หรือตะวันตกบลูส์ที่กำลังเกิดขึ้นอาจจะแตกต่างออกไปอย่างมากก็เป็นได้
วกกลับมาเข้าหัวข้อของวันนี้พอพูดถึงความคล้ายคลึงกับเพลงลูกทุ่งของเราเมื่อสี่สิบ-ห้าสิบปีก่อน ชื่อแรกๆที่โผล่ขึ้นมาในหัวคือ Slim Harpo ครับ ทำไมต้อง Slim Harpo? คนนี้นี่ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าเขาไม่เหมือนใครจริงๆครับ ถ้าเป็นศัพท์วัยรุ่นสมัยนี้ก็ต้องเรียก ฮิปสเตอร์ตัวพ่อ อะไรประมาณนั้นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การแต่งตัวหรือแอตติจูดในการทำเพลง เขาเป็นคนแรกๆที่ช่วยทำให้เกิดซาวนด์ในแบบ Swamp Blues ซึ่งเป็นบลูส์ที่เกิดจาก Louisiana (Swamp หมายถึงดินแดนชุ่มน้ำซึ่งเป็นลักษณะเด่นทางธรณีวิทยาของ Louisiana) บลูส์ในลักษณะนี้ต่างจากบลูส์กระแสหลักพอสมควรเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจังหวะที่มีความหลากหลายกว่า และมักจะเล่นกันแบบหลวมๆสบายๆ(laid back) จังหวะ Shuffle ในแบบชิคาโก้นั้นแทบไม่มีเลยครับ ฟอร์มของเพลงนั้นก็มักจะมีอะไรที่นอกเหนือจาก 12 bar blues และบ่อยครั้งที่ก็เป็นไปได้จะยืนคอร์ดเดียวไปจนจบเพลง(ตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งที่คล้ายคลึงกับเพลงลูกทุ่งและหมอลำของไทยครับ) เนื้อหาของเพลงถ้าเป็นเรื่องของความโกรธแค้นแทบไม่มีให้เห็น อาจจะมีเศร้าบ้าง แต่ Slim Harpo นั้นแม้กระทั่งการขอให้แฟนเกาหลังให้เขาก็เอาไปแต่งเป็นเพลงมาแล้ว(Baby Scratch My Back) แถมขึ้นชาร์ตเสียด้วย! นอกจากนี้แล้ววิธีการร้องเพลงของเขาก็ต่างออกไปจากบลูส์กระแสหลักอย่างสิ้นเชิง อันที่จริงเรียกว่ากึ่งร้องกึ่งพูดก็น่าจะเห็นภาพชัดเจนกว่า ทั้งหมดนี้รวมกันพูดเป็นศัพท์วัยรุ่นอีกสักทีก็คงต้องบอกว่า ลุงสลิมแกชิลจริงๆครับ!
ลักษณะเฉพาะที่แตกต่างออกไปอย่างมากจากบลูส์กระแสหลักแบบนี้บางทีมันก็มีลักษณะบางอย่างที่คล้ายคลึงกับเพลงลูกทุ่งบ้านเราได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นซาวนด์ดนตรี เนื้อหาหยิกแกมหยอก บรรยากาศโดยรวมที่ค่อนข้าง laid back
เรามาลองฟังเพลงนี้ดูครับ Tip On In ฟังแล้วลองจินตนาการเปลี่ยนเสียงร้องเป็นภาษาอีสานเล่าเรื่องราวอะไรก็ได้สนุกๆ ผมรับประกันว่าเห็นภาพครับ!
วันนี้ขออนุญาติแถมอีกคลิปเป็นของไวพจน์ เพชรสุพรรณ ลองฟังดูครับ คิดแล้วบางทีก็ยังเสียดายว่าดนตรีบ้านเรายุคนั้นก็ใช่ย่อย แต่ยุคหนึ่งถูกมองเป็นของเชย ตอนนี้ถ้าใครเริ่มมองเห็นจุดเชื่อมระหว่างดนตรีบลูส์ฮิปๆแบบนี้กับวัฒนธรรมบ้านเราเกิดเป็นไอเดียจะทำเพลงแบบนี้ออกมาคงเท่ไม่เบาครับ.
Recent Comments